18 พ.ค. 2555

การใช้งาน Pen Tool

สอน photoshop


วันนี้ผมจะมานำเสนอ Pen Tool เครื่องมือนี้ส่วนใหญ่คนใช้ Photoshop ใหม่ๆมักไม่เข้าใจไว้ทำอะไร เพราะผมก็เคยเป็นอย่างนั้น (ไม่รู้คนอื่นเป็นเปล่า) แต่สำหรับบทความนี้ผมจะมานำเสนอวิธีใช้ Pen Tool 

ส่วนหัวข้อทำไมมันถึงสารพัดประโยชน์ เพราะประโยชน์ของ Pen Tool สำหรับผมที่ใช้ประจำ คือ สามารถสร้าง Selection ที่ต้องการได้อย่างละเอียด (สร้าง Selection แทบจะเป็นหลักสำคัญของ Photoshop เลยครับ) สามารถสร้างเส้นที่ต้องการได้อย่างอิสระ ด้วยความที่ Pen Tool สามารถสร้างเส้นได้อย่างอิสระจึงเป็นจุดเด่นของเครื่องมือนี้ แต่การจะใช้งานได้คล่องเพื่อนๆก็ต้องทำการฝึกฝนให้มากๆ สำหรับบทความนี้จะเป็นไกด์ไลน์ในการหัดใช้ Pen Tool นะครับ

1. เลือกเครื่องมือ Pen Tool (P) และปรับการใช้งานเป็น Paths
สอน photoshop 

A : คือ การสร้างเส้น Path ในรูปแบบการ Draft
B : คือ การสร้างเส้น Path ในรูปแบบการลากเมาส์เหมือนการใช้ Brush 


 2. ผมจะสาธิตการใช้งานก่อนนะครับ เพื่อดูลักษณะการทำงานของ Pen Tool
ซึ่งจากรูปจะมีการลากเส้นเพียง 2 แบบ
โดยแบบ A คือการสร้างเส้นตรงธรรมดาคล้ายกับการสร้าง Selection ด้วย Polygonal Lasso Tool
แต่แบบ B นั้นจะเป็นการสร้างเส้นโค้งซึ่งเป็นลักษณะเด่นของ Pen Tool โดยสังเกตว่า เมื่อคลิกจุดที่ 1 แล้วคลิกจุด 2 ค้างไว้ พร้อมกับทำการลากเมาส์ไปดังรูปจะเกิดเส้นขึ้นมาอีก 2 เส้น โดยผมจะเรียกว่าแขนนะครับ ซึ่งเส้นที่ได้จากแบบ B จะเป็นเส้นโค้งครับ
สอน photoshop

ผ่าน ขั้นตอนนี้ไปเพื่อนๆคงพอเข้าใจลักษณะการสร้างเส้นของ Pen Tool แล้วนะครับ แต่ถ้าเกิดยังสงสัยลองเปิด Photoshop แล้วลองลากเล่นๆดูได้ครับจะเข้าใจมากกว่าเดิม


3. ผมจะใช้ Pen Tool ทำ Selection ให้รูปรถคันนี้นะครับ ชมตัวอย่างเลยครับ
เปิด รูปขึ้นมาครับซึ่งรูป Ferrari นี้ ผมจะทำการ Selection นะครับ ก่อนอื่น Zoom (Z) เข้าไปเพื่อความสะดวกในการทำงานครับ แล้วเริ่มคลิกที่ขอบของรถก่อนดังรูปครับ
สอน photoshop


4. ทำการคลิกสร้างเส้นโค้งไปบนขอบรูปครับ
สอน photoshop


5. ทำไปเรื่อยๆครับ แต่ถึงจุดนี้มีปัญหาครับ สังเกตว่าทุกครั้งที่คลิก เส้นที่เกิดจะเบนไปทางแขนของจุดก่อนหน้า แต่จุดที่เกิดปัญหานี้แขนมีทิศทางไปทางด้านล่างถ้าเราคลิกไปตามขอบรถต่อเส้นก็จะเบี้ยว
เพราะฉะนั้นให้เรากด Alt ค้างไว้และคลิกค้างที่แขน จากนั้นลากแขนให้อยู่ในทิศทางของขอบรถ
และทำการสร้างเส้นต่อไปได้เลยครับ (ถ้าเกิดกรณีนี้อีกให้ทำตามขั้นตอนที่ 5 นี้เลยครับ)
สอน photoshop


6. เมื่อทำการลากเส้นเสร็จแล้ว ให้ทำการคลิกขวาที่หน้าจอโดยยังใช้ Pen Tool อยู่ และเลือก Make Selection
สอน photoshop


7. จะพบหน้าต่างนี้ ซึ่งค่า Feather Radius คือ ค่าสำหรับเพิ่มความฟุ้งของขอบ Selection โดยที่นี้ผมจะปรับประมาณ 2 เพื่อไม่ให้ขอบนั้นทื่อเกินไป และไม่ฟุ้งเกินไป เสร็จแล้วกด OK (ถ้าเกิดลากเส้นรอบรถละเอียดมากปรับ 0 ก็ได้นะครับ)
สอน photoshop
Note: ค่า Feather ยิ่งมากขอบจะยิ่งฟุ้ง(ฟุ้งในทีนี้คือประมาณว่าเกิดความเบลอของขอบ ขอบไม่เป็นเส้นตัดที่ชัดเจน)


8. เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยสำหรับการ Selection ครับ
สอน photoshop
Note: ค่า Feather จะเห็นผลก็ต่อเมื่อทำการลากสิ่งที่ Selection ด้วย Move Tool ไปยังที่อื่นหรือทำการลบฉากด้านหลังที่ไม่ต้องการออก

9. ถ้าต้องการลบฉากด้านหลังออกให้ทำการกด Ctrl+Shift+I หรือไปที่ Select > Inverse จะเป็นการกลับสิ่งที่ Selection คือว่าง่ายๆ สิ่งที่ไม่ได้ทำ Selection จะเกิด Selection ขึ้น
ส่วนรูปรถที่ทำ Selection ไว้จะไม่อยู่ใน Selection ดังรูป
สอน photoshop
Note: สังเกตเส้นประของ Selection จะเกิดขึ้นรอบรูปภาพด้วยแสดงว่าทำการ Inverse แ้ล้ว

10. กดปุ่ม Delete เพื่อลบฉากหลังออกและกด Ctrl+D เพื่อลบ Selection ก็จะเหลือแต่รูปรถที่ต้องการ

สอน photoshop
Tip: สังเกตว่าฉากหลังจะเป็นสีขาว แต่ถ้าเกิดเราจะนำแต่รูปรถไปไว้ใน Background อื่น ก่อนเราจะกด Delete เพื่อลบฉากหลัง ให้เราดับเบิ้ลคลิกที่ Layer ชื่อ Background ที่มีรูปแม่กุญแจอยู่และกด OK แล้ว Background จะกลายเป็น Layer0 จากนั้นค่อยกด Delete ฉากจะเป็นรูปเหมือนตารางหมากฮอส จากนั้นเราสามารถนำรูปรถไปวางที่อื่นได้


ถ้าเพื่อนๆได้อ่านและลองฝึกบ่อยๆ รับรองว่าต้อง Draft ได้สวยแน่นอน ส่วนประโยชน์อย่างอื่นของการใช้ Pen Tool คือ ในขั้นที่ 6 เมื่อกดคลิกขวาจะพบคำสั่งต่างๆ ซึ่งคำสั่งต่างๆ มีลักษณะการใช้งานทีต่างกัน ซึ่งผมจะบอกเพียง 3 อย่าง หลักๆนะครับ
  • Make Selection: เปลี่ยนเส้น path ให้กลายเป็น selection ซึ่งผมได้สอนไปแล้วในขั้นต้น
  • Fill Path: เทสีลงในพื้นที่ของ path นั้นๆ สามารถปรับความเข้มของสีที่ลงได้ตรง Opacity และเลือกว่า่จะลงสีที่ตั้งไว้ใน Foreground หรือ Background
  • Stroke Path: ใส่เส้นขอบให้พื้นที่รอบ path นั้นๆ โดยให้เราเลือกลักษณะเส้นว่าจะใช้เครื่องมือใด และเมื่อเลือกจะเกิดผลตามที่เครื่องมือนั้นตั้งค่าอยู่ เช่น ตั้งค่า Brush ไว้ขนาด 20 เวลา Stroke Path ลงด้วย Brush ลงไปเส้นก็จะใหญ่ 20 ตามที่ตั้งไว้ครับ

13 พ.ค. 2555

เพลงเศร้า

 SAD SONG



ฝุ่น - บิ๊กแอ๊ส
พูดในใจ - Body Slam
เป็นตายร้ายดี - ลาบานูน
จบกันดีดี - โมทีฟ
เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป - Clash
แม้ว่า - Loso
คิดถึง - Silly Fools
คิดถึง - Peace Maker
ตัวจริงของเธอ - Double U
รักเธอทั้งหมดของหัวใจ - Pause
 รักเธอให้น้อยลง - Band Wagon
ใจละเมอ - ปลื้ม
 เอื้อมไม่ถึง - ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์











5 พ.ค. 2555

TQC




   TQC : TOTAL QUALITY CONTROL : การควบคุมคุณภาพเชิงรวม
  
 TQC คือ กิจกรรมที่พนักงานทุกคน ทุกระดับ และทุกหน่วยงานทำ หรือ ร่วมกันทำเป็นประจำ เพื่อปรับปรุงงานอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง โดยทำอย่างมี ระบบ ทำอย่างเชิงวิชาการ อิงข้อมูล และมี หลักการที่สมเหตุ สมผล เพื่อจุดมุ่งหมายที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจในคุณภาพ สินค้าและบริการ
           
          T= TOTAL หมายถึง ทุกคน ทุกระดับ ทุกหน่วยงาน และทุกวัน 
          Q=QUALITY หมายถึง คุณภาพสินค้า คุณภาพบริการ และคุณภาพของงานประจำมีองค์ประกอบ 5อย่างคือ 
          1. คุณภาพ (Quality = Q) หมายถึง คุณภาพของสินค้าและบริการ และคุณภาพของงานระหว่างทำ
          2. ต้นทุน (Cost = C) หมายถึง ค่าใช้จ่ายในการผลิต การให้บริการ และการทำงาน
          3. การส่งมอบ (Delivery = D) หมายถึง การส่งมอบสินค้า และบริการในจำนวนที่ถูกต้อง ในสถานที่ถูกต้องและตรงตามเวลา 
          4. ความปลอดภัย (Safety=S) หมายถึง ความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ ลูกค้า รวมถึงความปลอดภัยของพนักงาน
          5. ขวัญและกำลังใจของพนักงาน (Morale = M) หมายถึง การสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงานอย่างต่อเนื่อง และปรับปรุงงานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า


องค์ประกอบของ TQC
   Prof. Dr. Noriaki Kano ผู้เชี่ยวชาญด้าน TQC จาก Science University of Tokyo กล่าวว่า TQC เปรียบเสมือนการสร้างบ้าน ซึ่งมีองค์ประกอบ เช่น มีรากฐานที่มั่นคง มีพื้นที่แข็งแรง มีเสาบ้าน และมีหลังคาบ้าน บ้าน TQC ของ Dr. Kano มีองค์ประกอบดังนี้

      1. Intrinsic Technology
Intrinsic Technology คือ เทคโนโลยีเฉพาะด้าน อุตสาหกรรมแต่ละอย่างย่อมมีเทคโนโลยีใน การผลิตที่แตกต่างกัน และถือเป็นพื้นฐานสำคัญของอุตสาหกรรมนั้น ๆ การที่เราจะแข่งขันกับคู่แข่งขันได้ เงื่อนไขสำคัญข้อหนึ่งก็คือ Intrinsic Technology ของเราต้องทัดเทียมหรือเหนือกว่าคู่แข่งขัน และสำหรับ ธุรกิจที่ต้องแข่งขันกันในระดับโลก เช่น ธุรกิจคอมพิวเตอร์ Intrinsic Technology จะหมายรวมถึง ความ สามารถในการออกสินค้าใหม่ ๆ อีกด้วย

2. Motivation for Quality คือ แนวทางการผลักดันและจูงใจพนักงานเนื่องจาก TQC เป็นการ เปลี่ยนแปลงแนวคิด พฤติกรรม และวิธีการทำงานให้กับทุกคน ถือเป็น Cultural Change ซึ่งต้องใช้ความ เพียรพยายามและความอดทนสูง และต้องใช้เวลามาก จึงเป็นงานที่ยาก (Tough) และต้องออกแรงจนเหงื่อตก (Sweat) ด้วยเหตุนี้ จึงต้องมีแนวทางในการผลักดันและจูงใจ เพื่อให้พนักงานมีใจสู้ (Total Commitment) เปรียบเสมือนพื้นคอนกรีตที่แข็งแรงของบ้าน แรงผลักดันที่ทำให้พนักงานทุกคนยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อคุณภาพที่ดีขึ้น

3. QC Concepts คือ แนวคิดเพื่อให้พนักงานยึดถือเป็นแนวทางในการปรับปรุงงาน เปรียบเสมือน เสาหลักที่หนึ่งของบ้าน บางแห่งเรียกว่า QC Thinking หรือ QC Sense ซึ่งประกอบด้วยแนวคิดด้านคุณภาพ และแนวคิดทางด้านการจัดการ
4. QC Techniques คือเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ในการปรับปรุงงาน เปรียบเสมือนเสาต้นที่ 2 ของบ้าน ซึ่งประกอบด้วยเทคนิคต่างๆมากมายเช่น
-ผังพาเรโต(Pareto Chart)
-ผังแสดงเหตุผลหรือผังก้างปลา(Cause and Effect)
- แผ่นตรวจสอบ (Check Sheet)
- ฮีสโตแกรม (Histogram)
- แผนภูมิควบคุม (Control Chart)
- ผังการกระจาย (Scatter Diagram)
- กราฟ (Graph)
5. Promotional Vehicles
6. Quality Assurance

โดยวิธีการ TQC จะมีองค์ประกอบหลักสองส่วน

       1. ต้องมีวัตถุประสงค์ โดยที่วัตถุประสงค์ของ TQC จะสร้างความมั่นใจในคุณภาพของสินค้าและบริการ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มวัตถุประสงค์ด้านการลดต้นทุน การเพิ่มยอดขาย เป็นต้น
       2. ต้องมีวิธีการ การทำงานอยาง TQC ต้องมีวิธีการ ดังนี้

            1. ทำอย่างมีหลักการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific)
            2. ทำอย่างมีระบบ (Systematic)
            3. ทำอย่างทั่วถึง (Total Company-Wide) ทั้งองค์กร

อาจารย์ผู้สอน





  อาจารย์ ธภัทร  ชัยชูโชค

ชื่อเล่น  อาจารย์ปาล์ม

คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม